บทความ

3 ข้อดี ที่ได้จาก 5 วิธี ในการแพ็คของที่ถูกต้อง

3 ข้อดี ที่ได้จาก 5 วิธี ในการแพ็คของที่ถูกต้อง

ในปัจจุบันการซื้อขายสินค้าออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทั่วทุกมุมโลก และระบบการขนส่งก็มีการพัฒนาและปรับตัวตามการเติบโตด้วยเช่นกัน นั่นจึงส่งผลให้เกิดการส่งสินค้าหรือพัสดุทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญก็คือ การแพ็คสินค้าให้มีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการค้าข้ามพรมแดน หรือ Cross Border E-Commerce ที่เป็นการส่งสินค้าหรือพัสดุจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับการแพ็คเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องเดินทางไกลข้ามน้ำข้ามทะเลและใช้เวลานาน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ การส่งของไปต่างประเทศ ก็สูงกว่าการขนส่งภายในประเทศ และก่อนที่เราพูดถึง 3 ข้อดี ที่ได้จากการแพ็คสินค้าให้ถูกวิธีนั้น เรามาดู 5 วิธีแพ็คของกันก่อน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

5 วิธีในการแพ็คของให้ถูกต้อง

เลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม

ก่อนที่จะเลือกกล่องหรือซอง ควรจะพิจารณาที่ตัวสินค้าหรือสิ่งของก่อนว่า มีน้ำหนักเท่าไหร่และเป็นสินค้าที่เสียหายง่ายหรือไม่ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ถูกต้อง แบ่งตามหัวข้อได้ดังนี้

1.1 ประเภท
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเลือกกล่องเป็นหลัก เพราะสินค้าที่สามารถบรรจุใส่ห่อหรือซองได้นั้น จะไม่มีความยากหรือซับซ้อนใดๆ ซึ่งควรเลือกกล่องให้มีความหนา 2-3 ชั้นขึ้นไป แต่ถ้าหากสินค้าต้องการความปลอดภัยสูงและมีน้ำหนักมากก็ให้เพิ่มระดับความหนาของกล่อง และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้กล่องเก่าสำหรับการส่งสินค้าไปต่างประเทศ

1.2 ขนาด
การเลือกขนาดกล่องที่ไม่สัมพันธ์กับสิ่งของที่จะบรรจุลงไป จะทำให้ของภายในเกิดความเสียหายได้ เช่น หากเลือกขนาดกล่องเล็กเกินไป สิ่งของจะได้รับแรงกดทับหรือแรงกระแทกจากภายนอกได้ง่าย และหากเลือกขนาดกล่องที่ใหญ่เกินไปจะทำให้สิ่งของเคลื่อนที่ไปมาได้ และถึงแม้จะใส่วัสดุอุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดช่องว่างหรือแรงกระแทกเข้าไป ก็ยังมีผลเสียทางด้านของค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในกรณีที่ น้ำหนักจริงน้อยกว่าน้ำหนักโดยปริมาตร

การคำนวณน้ำหนักตามปริมาตร จะใช้การคำนวณจาก [กว้าง x ยาว x สูง] / 5,000 ตัวอย่างเช่น
กล่องมีขนาด 31 x 46 x 24 cm.
น้ำหนักสิ่งของภายใน + น้ำหนักกล่อง = 5 kg
คำนวณน้ำหนักตามปริมาตร [31 x 46 x 24]/5,000 = 6.84 kg
ซึ่งจะเห็นว่าน้ำหนักจริงสุทธิของพัสดุอยู่ที่ 5 kg แต่น้ำหนักโดยปริมาตรมีค่ามากกว่า ดังนั้นหมายความว่า คุณจะต้องจ่ายค่าขนส่งที่เรทราคาน้ำหนัก = 6.84 kg นั่นเอง

การห่อหุ้มและแพ็คตัวสินค้า

สินค้าแต่ละชนิดมีรูปแบบและลักษณะที่หลากหลาย แต่หลักการในการดูแลสินค้าให้ปลอดภัยก็จะคล้ายๆกัน เช่น การห่อบับเบิ้ลกันกระแทกที่ตัวสินค้า, การห่อหรือใส่ใสพลาสติกอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการเปียกทั้งกับตัวสินค้านี้และสินค้าอื่น ๆ ในกล่องด้วยเช่นกัน โดยต้องห่อให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้กินพื้นที่ว่างในกล่องจนเกินไป

ลดช่องว่างภายในกล่อง

หลังจากบรรจุสินค้าลงกล่องจนครบแล้ว จะพบช่องว่างในกล่องที่ทำให้สินค้าเคลื่อนไปมาได้อยู่ ให้นำกระดาษหนังสือพิมพ์ กระดาษฝอย หรือบับเบิ้ลกันกระแทก ใส่เสริมเข้าไปเพื่อล็อกสินค้าให้อยู่กับที่และยังช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการขนส่งได้เป็นอย่างดี

จัดการด้านนอกของกล่อง

ด้านนอกของกล่องก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรใช้เทปกาวที่มีความคงทน เช่น เทปพลาสติกหรือเทปผ้า และให้หลีกเลี่ยงการใช้เทปกระดาษสีน้ำตาล เทปใส โดยให้คุณแปะเทปกาวเป็นรูปตัว H ซึ่งหมายความว่า ติด 1 เทป ตรงช่องว่างกลางกล่อง , ติด 2 เทป ตรงช่องว่างมุมกล่องทั้งสองฝั่ง และหากกล่องนั้นมีน้ำหนักมาก ให้ติดเทปกาวซ้ำหลาย ๆ รอบ เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ

FRAGILE หรือ ระวังแตก

เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขนส่ง ให้คุณติดไว้ทั้งด้านบนกล่องและด้านข้างกล่อง เพื่อให้พนักงานขนส่งสามารถมองเห็นได้โดยง่าย และถึงแม้สินค้าจะไม่แตกหักง่ายก็ตาม คุณก็สามารถใช้ทริคนี้เพื่อช่วยเตือนใจเจ้าหน้าที่ขนส่งได้เช่นกัน และที่สำคัญคือ การส่งสินค้าไปต่างประเทศจะผ่านมือเจ้าหน้าที่ขนส่งที่ไม่ใช่คนไทย ดังนั้นต้องอย่าลืมใช้การเขียนหรือสติ๊กเกอร์ที่เป็นภาษาอังกฤษ

3 ข้อดีที่ได้จากการแพ็คสินค้าให้ถูกวิธี

ดีต่อใจ

ดีต่อใจในที่นี้ก็ครอบคลุมทั้ง ใจของคุณและใจของลูกค้า ซึ่งในฝั่งของคุณก็จะมีความสบายใจกับสินค้าหรือสิ่งของที่คุณได้แพ็คเป็นอย่างดีว่าจะถูกส่งถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย และในอีกฝั่งหนึ่งก็คือลูกค้า ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญที่สุดในมุมมองของเราเลย เพราะเมื่อลูกค้าได้รับสินค้าที่ครบถ้วน อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ก็จะทำให้ลูกค้าดีใจ ชื่นใจ สมกับที่เขาได้รอคอย

ดีต่อทุน

การแพ็คสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น มีผลโดยตรงกับต้นทุนทางด้านการขนส่งพัสดุไปต่างประเทศ อีกทั้งการที่คุณสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ก็จะสามารถทำราคาให้ลูกค้าได้ถูกลงหรือสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย และหากสินค้าที่ได้ส่งไปนั้นไม่เกิดความเสียหาย ก็จะไม่มีต้นทุนในด้านของการชดใช้หรือคืนเงินให้กับลูกค้าด้วย

ดีต่อแบรนด์

หลาย ๆ ครั้ง ที่การแพ็คสินค้าให้ถูกวิธี ถูกมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแพ็คของให้ดีที่สุดคือปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลดีต่อแบรนด์ของคุณ เพราะเป็นการสื่อไปถึงลูกค้าในทางอ้อมว่า คุณมีความใส่ใจและตั้งใจในทุกมิติ สิ่งนี้ยังส่งผลถึงการบอกต่อและการซื้อซ้ำอีกด้วย

ในปัจจุบันมีผู้ให้บริการแพ็คสินค้าเพิ่มขึ้นมากตามเทรนด์ E-Commerce แต่ยังคงเน้นไปที่ภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งทางเราก็มีให้บริการคลังสินค้าและบริการแพ็คของด้วยเช่นกัน และจากประสบการณ์แพ็คสินค้าส่งออกไปทั่วโลก จึงทำให้ KARTON EXPRESS มั่นใจว่าสินค้าของคุณจะไปถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสารใหม่ๆ จาก Karton

Subscribe for our daily News

พื้นที่โฆษณาฟรี

สำหรับพาร์ทเนอร์

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ต้องใช้ช้คำว่า “ต้องบุก” เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยมีการชะลอตัว รวมถึงอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ต่ำมาก จึงทำให้กำลังซื้อและขนาดตลาดไม่ได้ใหญ่ขึ้นเลย ... อ่านต่อ
Admin Karton

3 years ago

ต้องใช้ช้คำว่า “ต้องบุก” เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยมีการชะลอตัว รวมถึงอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ต่ำมาก จึงทำให้กำลังซื้อและขนาดตลาดไม่ได้ใหญ่ขึ้นเลย ... อ่านต่อ
Admin Karton

3 years ago

ต้องใช้ช้คำว่า “ต้องบุก” เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยมีการชะลอตัว รวมถึงอัตราการเกิดของประชากรไทยที่ต่ำมาก จึงทำให้กำลังซื้อและขนาดตลาดไม่ได้ใหญ่ขึ้นเลย ... อ่านต่อ
Admin Karton

3 years ago